ชาเขียวมัทฉะ  สุดยอดเครื่องดื่มที่เต็มไปด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพ ปี 2024

Published by Chobpaicafe on

ชาเขียวมัทฉะ สุดยอดเครื่องดื่มที่เต็มไปด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพ

ชาเขียวมัทฉะ (Matcha) คือเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากในวงการสุขภาพและความงาม โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นถือแหล่งต้นกำเนิดของชาเขียวมัทฉะ ความนิยมของมัทฉะไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะรสชาติที่อร่อย แต่ยังมาจากประโยชน์ทางสุขภาพที่หลายคนไม่สามารถมองข้าม ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับชาเขียวมัทฉะอย่างละเอียด พร้อมทั้งสรุปคุณประโยชน์ที่สำคัญของเครื่องดื่มชนิดนี้ ตามมาอ่านต่อกันเลยค่ะ 

เนื้อหาเกี่ยวกับชาเขียวมัทฉะ 

มัทฉะคืออะไร?

มัทฉะ คือชาเขียวที่ปลูกในร่มซึ่งทำให้ใบชามีสารคลอโรฟิลล์สูงและให้สีเขียวเข้มที่เป็นเอกลักษณ์ ใบชาที่ถูกเก็บเกี่ยวจะถูกบดละเอียดเป็นผงเพื่อทำเป็นมัทฉะ วิธีการผลิตนี้ทำให้มัทฉะมีความเข้มข้นและมีสารอาหารสูงกว่าใบชาเขียวธรรมดา มัทฉะมีรสชาติที่เข้มข้นและหวานเล็กน้อย มักถูกใช้ในพิธีชงชาของญี่ปุ่นและเป็นส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ 

ประโยชน์ของชาเขียวมัทฉะ

ประโยชน์ของชาเขียวมัทฉะ

1. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

มัทฉะมีสารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูง โดยเฉพาะสารคาเทชิน (Catechin) ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ และมะเร็ง การดื่มมัทฉะสามารถช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์และการอักเสบในร่างกายได้

2. ช่วยระบบการเผาผลาญและลดน้ำหนัก

มัทฉะมีส่วนช่วยในการเพิ่มกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย ซึ่งเป็นผลมาจากคาเฟอีนและสารแอลธีอะนีน (L-theanine) ที่ทำงานร่วมกัน ช่วยเพิ่มพลังงานและการเผาผลาญไขมัน การดื่มมัทฉะก่อนออกกำลังกายอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงานได้ คนที่รักสุขภาพจึงหันมาดื่มมัทฉะมากขึ้น 

3. ช่วยเพิ่มสมดุลของสุขภาพจิตและการผ่อนคลาย

แอลธีอะนีนในมัทฉะมีคุณสมบัติช่วยในการลดความเครียดและทำให้เราการผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งคาเฟอีนในมัทฉะจะช่วยให้มีสมาธิและเพิ่มพลังงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำให้เกิดความเครียด การดื่มมัทฉะจึงสามารถช่วยให้มีสมาธิที่ดีขึ้นและลดความเหนื่อยล้าได้นั่นเอง 

4. ช่วยบำรุงสมองและความจำ

งานวิจัยบางฉบับชี้ว่า มัทฉะสามารถช่วยบำรุงสมองและเพิ่มความสามารถในการจำได้ เนื่องจากมัทฉะมีสารอาหารที่ส่งเสริมการทำงานของสมอง การดื่มมัทฉะเป็นประจำอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อม

5. ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

มัทฉะมีวิตามินซี โพแทสเซียม และธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง การดื่มมัทฉะสามารถช่วยป้องกันโรคหวัดและช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายได้อีกด้วย 

6. ดีต่อสุขภาพผิวพรรณ

การดื่มมัทฉะยังสามารถช่วยให้ผิวพรรณดูสดใสและลดปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น สิว และการอักเสบของผิว การดื่มมัทฉะเป็นประจำอาจช่วยลดการเกิดริ้วรอยและทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ ใครที่อยากดูเด็กขึ้น มัทฉะน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้เราดูอ่อนกว่าวัยได้ 

7. วิธีการดื่มมัทฉะ

การชงมัทฉะเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้นไม่ยาก เพียงแค่ใช้ผงมัทฉะประมาณ 1-2 ช้อนชา ตีผสมกับน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส จนเกิดฟองละเอียด ดื่มทันทีหลังจากชงเสร็จเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด หรือสามารถนำมัทฉะไปเป็นส่วนผสมในเมนูอื่น ๆ เช่น สมูทตี้ ไอศกรีม หรือเบเกอรี่ เพื่อเพิ่มคุณค่าและรสชาติให้กับอาหาร

ความแตกต่างระหว่างชาเขียวกับชาเขียวมัทฉะ

ความแตกต่างระหว่างชาเขียวกับชาเขียวมัทฉะ

ชาเขียวและชาเขียวมัทฉะทั้งสองชนิด มาจากพืชชนิดเดียวกันคือ Camellia sinensis แต่มีความแตกต่างที่สำคัญในกระบวนการผลิต รูปลักษณ์ และคุณค่าทางโภชนาการซึ่งทำให้เครื่องดื่มทั้งสองชนิดนี้มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป มาดูกันต่อเลยว่าความแตกต่างระหว่างชาเขียวและชาเขียวมัทฉะ มีอะไรบ้าง 

กระบวนการผลิต

ชาเขียว โดยทั่วไปมักถูกปลูกในที่เปิดโล่ง ได้รับแสงแดดเต็มที่ ใบชาเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วจะผ่านกระบวนการอบไอน้ำเพื่อหยุดการหมัก และจากนั้นจะถูกอบแห้งเพื่อคงรสชาติและสารอาหาร ใบชาที่ได้จะถูกตัดหรือบดเพื่อทำชาใบหรือชาแบบถุง ซึ่งเป็นที่นิยมดื่มกันในชีวิตประจำวัน

ในทางกลับกัน ชาเขียวมัทฉะ มีวิธีการปลูกและผลิตที่แตกต่างออกไป ใบชาจะถูกปลูกในร่มเป็นเวลาประมาณ 20-30 วันก่อนการเก็บเกี่ยว การปลูกในร่มนี้ช่วยเพิ่มปริมาณคลอโรฟิลล์ในใบชา ทำให้ใบชามีสีเขียวเข้มและมีสารอาหารสูง ใบชาจะถูกเก็บเกี่ยวด้วยมือ เลือกเฉพาะใบที่ดีที่สุด จากนั้นจะถูกอบไอน้ำ บดละเอียดเป็นผงละเอียดที่เรียกว่า “มัทฉะ” ซึ่งทำให้มัทฉะมีความเข้มข้นมากกว่าใบชาเขียวทั่วไปนั่นเอง 

รูปลักษณ์และรสชาติ

รูปลักษณ์ของชาเขียวและมัทฉะก็แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ชาเขียวมักจะมีลักษณะเป็นใบหรือต้นชาแห้ง ในขณะที่มัทฉะมีลักษณะเป็นผงละเอียดที่มีสีเขียวเข้ม รสชาติของชาเขียวมักจะอ่อนหวานและมีกลิ่นหอม ในขณะที่มัทฉะมีรสชาติที่เข้มข้นกว่ามาก มีความฝาดเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมที่เด่นชัดกว่า

คุณค่าทางโภชนาการ

คุณค่าทางโภชนาการของมัทฉะ

ในด้านของคุณค่าทางโภชนาการ มัทฉะถือว่ามีคุณค่าทางสารอาหารที่สูงกว่าชาเขียวทั่วไป เนื่องจากการที่ดื่มมัทฉะ เราจะได้รับประโยชน์จากทั้งใบชา ไม่ใช่เพียงการแช่ใบชาในน้ำเหมือนชาเขียว ทำให้มัทฉะมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น คาเทชิน (Catechin) และแอลธีอะนีน (L-theanine) ในปริมาณที่สูงกว่า ซึ่งสารเหล่านี้มีประโยชน์ในการลดความเครียด เสริมสร้างสมาธิ และป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น มะเร็งและโรคหัวใจนั่นเอง 

นอกจากนี้ มัทฉะยังมีคาเฟอีนมากกว่าชาเขียวทั่วไป ซึ่งอาจจะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีพลังงานมากกว่า อย่างไรก็ตาม การบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับหรือใจสั่นได้

ดังนั้น ความแตกต่างระหว่างชาเขียวและชาเขียวมัทฉะ มีทั้งในด้านกระบวนการผลิต รูปลักษณ์ รสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งนี้ การเลือกดื่มชาเขียวหรือมัทฉะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและประโยชน์ที่คุณต้องการจากการดื่มชาแต่ละชนิด สามารถเลือกตามความชื่นชอบและคุณประโยชน์ของเราได้เลยค่ะ 

บทสรุป

ชาเขียวมัทฉะ เป็นเครื่องดื่มที่มีคุณประโยชน์หลากหลายทั้งในด้านสุขภาพจิตและร่างกายไม่ว่าจะเป็น การช่วยเผาผลาญพลังงานและลดน้ำหนัก ไปจนถึงการบำรุงสมองและส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน การดื่มมัทฉะเป็นประจำสามารถช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นและมีพลังงานมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเลือกดื่มแบบดั้งเดิมหรือผสมกับเมนูอื่น ๆ มัทฉะยังคงเป็นทางเลือกที่ดีในการดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบัน ซึ่งมัทฉะจะมีความแตกต่างกับชาเชียวทั่วไปทั้งในเรื่องกระบวนกระผลิต รูปลักษณะและรสชาติรวมไปถึงคุณค่าทางโภชนาการด้วย ดังนั้นเราสามารถเลือกดื่มชาได้ตามประโยชน์ที่เราต้องการและความชื่นชอบของเราได้เลยค่ะ 

นอกจากมัทฉะแล้วยังมีเครื่องดื่มที่น่าสนใจไม่แพ้กันไม่ว่าจะเป็น โกโก้ หรือ กาแฟ ที่คุณสามารถเลือกอ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ของเราค่ะ  


0 Comments

ใส่ความเห็น

Avatar placeholder

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *