กาแฟ เครื่องดื่มแสนอร่อย ที่ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า เพิ่มพลังงานความสดใสในทุก ๆ วัน 2024
กาแฟ หนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมที่ให้พลังงานและยังทำให้ผู้ที่ดื่มสามารถทำงานต่อไปได้ตลอดทั้งวัน นับเป็นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนที่ช่วยชีวิตเหล่าคนทำงานไปจนถึงวัยเรียนให้มีพลังและสู้ต่อไปในแต่ละวันได้ไม่มากก็น้อย สำหรับรสชาติของกาแฟโดยเบื้องต้นจะออกรสขม ในขณะที่เมล็ดกาแฟแต่ละชนิดก็จะมาพร้อมกับรสชาติที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น อาจจะมาพร้อมกับรสเปรี้ยวไปจนถึงรสฝาด เป็นต้น ทั้งนี้ชนิดของกาแฟก็มีหลายแบบอีกทั้งยังมาจากแหล่งผลิตที่แตกต่างกันไปด้วยเช่นเดียวกัน
เนื้อหาเกี่ยวกับกาแฟ
- จุดเริ่มต้นของการดื่มกาแฟ
- ขั้นตอนการผลิตเมล็ดกาแฟ
- แหล่งผลิตกาแฟมากที่สุดในโลก
- เมนูกาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
- ประโยชน์และผลเสียของการดื่มกาแฟ
- บทสรุปทิ้งท้าย
จุดเริ่มต้นของการดื่มกาแฟ
กาแฟ ถูกค้นพบในช่วงศตวรรษที่ 6 เป็นพืชพื้นเมืองของอาบีซีเนียและอาราเบีย เป็นพืชพื้นเมืองจากเมืองคัฟฟาในประเทศเอธิโอเปีย ซึ่งภายหลังได้รับความนิยมมากขึ้นจนแพร่หลายไปในแถบประเทศยุโรป ซึ่งชื่อของกาแฟก็ถูกเรียกผันมาตามชื่อเมืองนั่นเอง
สำหรับที่มาของกาแฟในไทยก็เริ่มต้นจากนายดีหมุน ชาวอิสลาม ผู้ที่มีโอกาสได้ไปแสวงบุญที่ประเทศซาอุดิอาราเบีย ได้เอากาแฟมาปลูกที่จังหวะสงขลา ซึ่งปรากฏว่ากาแฟดังกล่าวเป็นกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้ากาแฟที่มี คาเฟอีน และได้รับการปลูกอย่างแพร่หลายในภาคใต้จนถึงปัจจุบัน
ขั้นตอนการผลิตเมล็ดกาแฟ
สำหรับกระบวนการผลิตเมล็ด กาแฟ จะแบ่งออกเป็น 7 ขั้นตอนใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้
1. การปลูกต้นกาแฟ
จะมีการเลือกสถานที่สำหรับปลูกต้นกาแฟอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ต้นกาแฟถูกใจและชื่นชอบ พร้อมกันนี้จะแบ่งต้นกาแฟตามพื้นที่ที่ปลูกและสายพันธุ์ของกาแฟที่ปลูก
2. การเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟ
จะเลือกเก็บเฉพาะเมล็ดที่เรียกว่าเมล็ดเชอร์รี่ซึ่งก็เป็นเมล็ดที่สุกแล้ว โดยจะเริ่มเก็บตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนมีนาคม ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ทำการเพาะปลูกและเมล็ดกาแฟด้วย
3. การกะเทาะเปลือกกาแฟ
จะมีการนำผลเชอร์รี่มาคัดเลือกด้วยการนำมาใส่ในถังน้ำ เมล็ดที่จมคือเมล็ดที่สมบูรณ์ มีคุณภาพ หลังจากนั้นจะถูกนำมากะเทาะเปลือกออกเพื่อเอาเมล็ดกาแฟด้านในออกไป ซึ่งหลังจากที่เมล็ดเชอร์รี่ถูกกะเทาะเปลือกออกจะถูกเรียกว่า กาแฟกะลา
4. การบ่มเพาะกาแฟ
จะเริ่มจากการเอากะลากาแฟมาเข้าสู่กระบวนการทำความสะอาดและไล่ความชื้น เพื่อให้กาแฟสะอาดขึ้นและมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้กระบวนการจะแบ่งออกเป็น 3 กระบวนการ ได้แก่
- กระบวนการทำแบบเปียก : การนำผลเชอร์รี่มาขจัดเมือก หมักด้วยการแช่ในน้ำเสร็จแล้วนำเข้าเครื่องกะเทาะเปลือก จากนั้นนำมาตากแห้ง
- กระบวนการทำแบบแห้ง : การนำผลเชอร์รี่มาตากจนแห้งแล้วจึงนำไปใช้ได้
- กระบวนการทำกึ่งเปียกกึ่งแห้ง : คล้ายกับกระบวนการทำแบบเปียกแต่จะไม่มีกระบวนการขจัดเมือก
5. การสีกาแฟ
จะเป็นการสีกะลากาแฟที่หุ้มอยู่บริเวณเมล็ดกาแฟให้หลุดออกไปผ่านเครื่องสีกาแฟ ซึ่งจะกลายเป็นกาแฟสาร
6. การคั่วกาแฟ
จะนำเมล็ดกาแฟมาคั่วผ่านเครื่องคั่วโดยตรง ซึ่งจะแบ่งระดับของการคั่วออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ คั่วอ่อน, คั่วกลาง และคั่วเข้ม
7. การสกัดกาแฟ
เมื่อได้เมล็ดกาแฟคั่วออกมาแล้วเมล็ดจะถูกนำมาบดจะได้เป็นกาแฟคั่วบด และนำมาสกัดเป็นเครื่องดื่มกาแฟหลายประเภทผ่านการชงรูปแบบต่าง ๆ
แหล่งผลิตกาแฟมากที่สุดในโลก
สำหรับแหล่งผลิตกาแฟที่ส่งออกมากที่สุดในตอนนี้ประกอบด้วย 5 ประเทศ ได้แก่
- อันดับที่ 1 บราซิล : ครองแชมป์ผลิตกาแฟมากที่สุดในโลก โดยผลิตมากถึง 2964 ล้านกิโลกรัมต่อปี ด้วยวิธีการตากแดด
- อันดับที่ 2 เวียดนาม : เป็นประเทศที่ดีดตัวและเพิ่มกำลังในการผลิตกาแฟอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันส่งออกกาแฟมากถึง 1758 ล้านกิโลกรัมต่อปี
- อันดับที่ 3 โคลอมเบีย : เป็นประเทศที่เคยส่งออกกาแฟได้มากกว่านี้ แต่ภายหลังมีปัญหาในเรื่องของสภาพอากาศ ทำให้ในปัจจุบันมีอัตราในการส่งออกเหลืออยู่เพียง 804 ล้านกิโลกรัมต่อปี
- อันดับที่ 4 อินโดนีเซีย : ประเทศที่ปลูกกาแฟเป็นหลัก คิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ของพืชผลทางการเกษตรทั้งหมด โดยมีกาแฟขึ้นชื่ออย่างกาแฟขี้ชะมด โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 636 ล้านกิโลกรัมต่อปี
- อันดับที่ 5 เอธิโอเปีย : ประเทศที่ปลูกกาแฟมายาวนานกว่า 1,100 ปี โดยมีสายพันธุ์กาแฟหลัก ๆ ที่ส่งออกก็คือ อาราบิก้า พร้อมส่งออกกาแฟมากถึง 390 ล้านกิโลกรัมต่อปี
รวมเมนูกาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
สำหรับเมนู กาแฟ ที่ถูกนำไปชงเป็นน้ำแสนอร่อย ก็คงจะหนีไม่พ้นเมนูกาแฟที่เราจะกล่าวถึงทั้งหมด ดังต่อไปนี้
- เอสเปรสโซ : กาแฟที่เน้นในเรื่องของความเข้มข้นเป็นหลัก เป็นการคั้นเอาเพียงน้ำกาแฟสุดเข้มข้นมาให้ดื่มโดยเฉพาะ
- คาปูชิโน : กาแฟดำใส่นม เป็นกาแฟที่เพิ่มความนัว ความหอม ความมันให้กับกาแฟโดยใส่เอสเปรสโซลงไปเพียงนิดหน่อยเท่านั้น
- อเมริกาโน่ : กาแฟดำสไตล์อเมริกาที่นำเอสเปรสโซมาเจือจางความเข้มข้นลงด้วยน้ำเปล่า อย่างไรก็ตามถึงแม้ความเข้มข้นและ คาเฟอีน จะลดน้อยลงไปบ้าง แต่ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากเดิม
- มอคค่า : กาแฟที่เอาใจสายหวานเล็กน้อยเพราะเป็นการนำช็อคโกแลตมาผสมเข้ากับนมและกาแฟ ด้วยสัดส่วนที่เท่า ๆ กันทำให้เอสเปรสโซผสมเข้ากับช็อคโกแลตและนมได้อย่างลงตัว
- ลาเต้ : เป็นเมนูที่มีความคล้ายกับคาปูชิโน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถึงแม้จะมีการเติมนมลงไป แต่จะเป็นการใส่นมที่มีความร้อนลงไปแทน ซึ่งตัวยมจะมีการแยกชั้นระหว่างนมกับกาแฟและฟองนมอย่างเห็นได้ชัด
- คาราเมลมัคคิอาโต้ : เป็นการนำนมร้อนมาผสมกับคาราเมล พร้อมทำฟองนมปิดหน้าเป็นลวดลายด้วยกาแฟเอสเปรสโซสีน้ำตาลเพื่อเพิ่มความสวยงามไปด้วย
ประโยชน์และผลเสียของการดื่มกาแฟ
กาแฟ เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างมาก อย่างไรก็ตามหากดื่มอย่างไม่มีลิมิตก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ทั้งนี้กาแฟก็มีทั้งประโยชน์และผลเสียดังต่อไปนี้
ประโยชน์
- กาแฟช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีกว่าคนที่ไม่ดื่ม
- ลดการอักเสบภายในร่างกาย
- ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า สดชื่น
- ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งลำไส้ตรง และโรคนิ่วในถุงน้ำดี
ผลเสีย
- หากดื่มกาแฟในปริมาณต่อวันมากเกินไป อาจจะทำให้มีอาการใจสั่นหรือวิตกกังวลได้ และอาจจะมีผลประทบต่อการนอนหลับได้
- การดื่มกาแฟโดยใส่ครีม น้ำตาล และนมมากเกินไป ทำให้ร่างกายได้รับคอเลสเตอรอลสูงกว่าปกติ
บทสรุปทิ้งท้าย
กาแฟ เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายกลุ่มมาอย่างยาวนาน ซึ่งในปัจจุบันกาแฟก็มีหลายชนิดให้เลือกดื่ม เอาใจทั้งคนที่ชอบความเข้มข้นของกาแฟและอยากได้รับ คาเฟอีน เพื่อให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ไปจนถึงคนที่ไม่ได้ต้องการความเข้มข้นมากนักก็ยังสามารถเลือกดื่มกาแฟพร้อมนมได้เช่นเดียวกัน
0 Comments